วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

:: สถานพินิจฯอยุธยา


หงายมือวางไว้บนหน้าตัก สูดลมหายใจยาวๆ ผ่อนคลายความรู้สึก เพ่งความรู้สึกมาที่กลางหน้าอก บริเวณลิ้นปี่ ค่อย ๆ เอามือมาแตะกลางอก ให้สังเกตความรู้สึกคล้ายหัวใจเต้น คล้ายชีพจรเต้นวึบ วึบ วึบ บางคนรู้สึกเบา ๆ บางคนรู้สึกแรง ๆ นี่คือฐานของจิต ให้รู้สึกไปเรื่อย ๆ จิตดวงนี้ก็จะมีที่พึ่งที่เกาะอยู่ภายใน จิตภายในก็จะสงบ ลงภวังค์ เมื่อจิตตั้งมั่นปัญญาก็จะเกิด จะพิจารณาเห็นว่าสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลกล้วนเกิดขึ้นดับไป ไม่สามารถเอาอะไรไปได้ เรายึดมั่นเพราะสิ่งใด เราก็ทุกข์เพราะสิ่งนั้น







เสียงคำสอนของ พระอาจารย์ธวัชชัย ธมฺมทีโป จากศูนย์รวมจิตใจ บ้านดวงประทีปแห่งธรรม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สะกดให้เยาวชนชายหญิงกว่า 80 คนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นั่งสงบนิ่งอยู่กับการฝึกปฏิบัติตามแนวมหาสติปัฎฐาน 4 อริยมรรคมีองค์ 8
ภาพเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกปฏิบัติในโครงการพัฒนาจิตตามแนวมหาสติปัฎฐาน 4 ที่ทางสถานพินิจจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ร่วมมือกับศูนย์รวมจิตใจ บ้านดวงประทีปแห่งธรรมจัดขึ้น เพื่อเป็นการนำธรรมะเข้ามาช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้แก่เด็กและเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของสถานพินิจฯ ซึ่งในวันหนึ่ง จะต้องกลับไปสู่อ้อมอกของครอบครัวเช่นเดิม



น.ส.สุวัจนา ปัจจุสา นนท์ หรือ ครูติ๋ม นักจิตวิทยาของสถานพินิจฯ เล่าว่า โครงการพัฒนา จิตฯ เกิดขึ้นจากนโย บายของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่ต้องการให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูเด็กและเยาวชน ทางสถาน พินิจฯ จึงได้หารือร่วมกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ และเห็นว่าควรส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสพัฒนาจิต เพราะเด็กและเยาวชนที่ต้องเข้ามาอยู่ในสถานพินิจฯ ส่วนใหญ่จะเครียด คิดถึงบ้าน รู้สึกวิตกกังวล หงุดหงิด ทำให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันได้ง่าย







“โครงการนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม ถึง 10 กรกฎาคม 2550 โดยเด็กและเยาวชนในสถานพินิจฯ จะหมุนเวียนกันเข้ามาฝึกปฏิบัติกับพระอาจารย์ธวัชชัย ทุกวันอังคาร ประมาณ 9 โมงเช้าถึงเที่ยง และเป็นที่น่าประหลาดใจเพราะเด็ก ๆจะให้ความสนใจกันมาก ทุกคนจะตั้งใจฟัง ตั้งใจฝึกปฏิบัติ สังเกตได้จากในระหว่างการอบรมจะไม่มีเสียงพูดคุยกันเลย ในขณะที่การอบรมเรื่องอื่น ๆ ที่สถานพินิจฯ เคยจัด เด็ก ๆ จะคุยกันวุ่นวาย ไม่ค่อยสนใจ ซึ่งหลังการฝึกผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ก็พบว่า เด็กส่วนใหญ่รู้สึกดี สงบ ความเครียดลดลง มีสมาธิมากขึ้น และที่สำคัญพฤติกรรมดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด” ครูติ๋ม กล่าวด้วยความปลาบปลื้มใจ



พระอาจารย์ธวัชชัย ธมฺมทีโป กล่าวว่า เด็กที่อยู่ในสถานพินิจฯ จะมีความเครียดกังวล เศร้าโศก เสียใจ ท้อแท้ ผิดหวัง แม้บางคนจะสำนึกได้กับสิ่งที่เคยทำลงไป แต่ภายในจิตใจก็ยังสับสน เพราะไม่มีที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ดังนั้นการฝึกจิตจะช่วยทำให้รู้สึกสงบ และจะเกิดปัญญารู้ว่าควรดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร ซึ่งความจริงแล้วการฝึกดูจิต สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย เด็กเล็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น คนแก่ หรือคนป่วยก็ฝึกดูจิตได้ทั้งนั้น และทำได้ทุกอิริยาบถ ตลอดวันตลอดคืน ซึ่งจิตที่ฝึกดีแล้วย่อมนำมาซึ่งความสุข และสุขอื่นใดเสมอด้วยความสงบไม่มี อีกทั้งเมื่อฝึกจิต กุศลก็เกิด เวลาแผ่เมตตาก็จะมีกระแสจากภายในส่งออกไปภายนอก ซึ่งกระแสเหล่านี้สามารถส่งถึงกันได้



“อาตมาอยากให้ผู้ใหญ่ได้ฝึกด้วยเพื่อเป็นที่พึ่งให้แก่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ผู้บริหารในโรงเรียน แม้แต่ผู้คุมในสถานพินิจฯ เพราะผู้ใหญ่ที่ทำงานกับเด็กต้องมีความเมตตา ซึ่งเด็ก ๆ จะรับกระแสของความเมตตาเหล่านี้ได้” พระอาจารย์ธวัชชัย กล่าว




น.ส.น้อย (นามสมมุติ) ซึ่งอยู่ในความดูแลของสถานพินิจฯ ระหว่างการพิจารณาคดีอาญา เล่าว่า ตนเข้ามาอยู่ในสถานพินิจฯ ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว ซึ่งในช่วงแรกจะรู้สึกเครียดมาก มีความกดดันจนอยากตาย ได้แต่ร้องไห้และไม่อยากคุยกับใคร เมื่อมีโครงการพัฒนาจิต ตนจึงสมัครใจมาอบรมเอง ทั้งที่ไม่ค่อยเชื่อว่าจะช่วยอะไรได้ แต่เมื่อได้ฝึกปฏิบัติจิตด้วยตนเองแล้ว กลับพบว่าช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิมากขึ้น ดังนั้นตนจะฝึกต่อไปเรื่อยๆ แม้จะออกจากสถานพินิจฯ ไปแล้ว



“เมื่อต้องมาอยู่ในสถานพินิจฯ หนูโกรธทุกคน โกรธแม้แต่ทนายของฝ่ายผู้เสียหาย แต่เมื่อได้ฝึกปฏิบัติ ช่วยให้หนูมีสติทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ และเข้าใจแล้วว่า ผลที่ได้รับอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้มีใครทำ แต่มาจากการกระทำของเราเอง ทำให้ยอมรับสภาพได้ และยังรู้สึกสำนึกผิดว่าเราก็มีส่วนด้วย ซึ่งหากได้กลับบ้าน หนูจะทำดีกับแม่ จะไม่เถียงแม่ และจะตั้งใจเรียน และที่สำคัญหนูอยากฝากถึงเพื่อน ๆ วัยรุ่นว่า การคบเพื่อนมีความสำคัญมาก สังคมของคนที่เรียนหนังสือกับคนที่ไม่เรียนหนังสือจะต่างกัน อย่าคิดแต่สนุกสนาน แต่ควรคิดถึงอนาคตไกล ๆ ด้วย” น้อย เผยความในใจ






ความจริงแล้วคนที่กระทำผิดกฎหมาย จะด้วยเจตนาหรือความประมาทพลาดพลั้ง หรือเคยมีประสบการณ์ผ่านการถูกคุมขัง โดยเฉพาะเยาวชนที่เคยผ่านสถานพินิจฯ มาแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเยาวชนเหล่านั้นจะปรับปรุงแก้ไขชีวิตใหม่ให้ดีขึ้น หรือกลับมาเป็นคนดีของสังคมอีกไม่ได้ แต่เมื่อถึงวันที่จะได้กลับออกไปสู่สังคม ต้องยอมรับว่าช่วงแรก เป็นเวลาของการปรับตัวและต้องรับแรงกดดันอย่างหนักจากสังคมรอบตัว ซึ่งทุกคนต้องผ่านช่วงนั้นไปให้ได้


ดังนั้นธรรมะจะเข้ามามีบทบาทช่วยเหลือได้อย่างมากในช่วงนี้อย่างไรก็ตามการฝึกปฏิบัติธรรมคงไม่ได้จำกัดเฉพาะคนที่มีปัญหาเท่านั้น แต่ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยก็สามารถฝึกปฏิบัติได้เช่นกัน เพราะการฝึกดูจิตก็คือ การดูแลรักษาจิตใจให้มีความสุขนั่นเอง ซึ่ง พระอาจารย์ธวัชชัย จะสอนการฝึกปฏิบัติตามแนวมหาสติปัฎฐาน 4 ทุกวันศุกร์เวลา 12.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 อาคารรัชมังคลาภิเษก ภายในกระทรวงศึกษาธิการ ใครสนใจก็สามารถเข้าร่วมได้ หรือสอบถามเพิ่มเติม คุณบุญศรี ดาราราช ผู้อำนวยการศูนย์รวมจิตใจ บ้านดวงประทีปแห่งธรรม โทร. 08-9144-1092 และ อ.วิมล มาเทียน หัวหน้างานสายด่วนการศึกษา 1579 โทร. 08-9481-5587.





จาก: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 18 ก.ค.2550

ไม่มีความคิดเห็น: